404 Error - page not found
We're sorry, but the page you are looking for doesn't exist.
You can go to the homepage

OUR LATEST POSTS

สำหรับคนที่ทำงานในบริษัทต่างชาติ ซึ่งต้องประชุมเป็นภาษาอังกฤษ ควรที่จะศึกษาเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับการประชุมโดยเฉพาะเอาไว้บ้าง

คำศัพท์การประชุมภาษาอังกฤษ

คำศัพท์เรื่องการประชุมภาษาอังกฤษ ที่พบบ่อย

A.G.M. อักษรย่อ แปลว่า การประชุมทั่วไปประจำปี Annual General Meeting

A.O.B. อักษรย่อ มาจากคำว่า any other business หมายถึง เรื่องอื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุเป็นหัวข้อในหลักในประชุม มักเป็นรายการสุดท้ายในวาระการประชุม

absent แปลว่า ขาดประชุม

agenda แปลว่า ระเบียบวาระการประชุม

apologies แปลว่า รายการในวาระการประชุมที่แจ้งให้ทราบว่าใครไม่ได้เข้าร่วมประชุม และแสดงความขอโทษที่ไม่ได้เข้าร่วม

ballot แปลว่า การออกเสียงรูปแบบหนึ่ง ที่ใช้ลงคะแนนในกระดาษ ซึ่งโดยมากเป็นการออกเสียงในทางลับ

casting vote แปลว่า มติชี้ขาด ซึ่งโดยมากแล้วประธานการประชุมจะเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด เมื่อคะแนนโหวตสองฝ่ายเท่ากัน

chairman แปลว่า ประธานการประชุม

conference แปลว่า การประชุม เป็นการประชุมอย่างเป็นทางการสำหรับการอภิปราย

conference call แปลว่า ประชุมสายโทรศัพท์ เป็นการโทรศัพท์คุยกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป โดยที่แต่ละคนอยู่คนละสถานที่

consensus หมายถึง ข้อตกลงที่ได้รับการยอมรับจากการประชุม

decision แปลว่า การตัดสิน หมายถึง ข้อสรุปที่จะทำบางสิ่ง

item แปลว่า เรื่อง หมายถึง แต่ละหัวข้อที่อภิปราย เช่นเดียว รายการในกำหนดการประชุม

matters arising แปลว่า เรื่องที่เกิดขึ้น(จากการประชุมครั้งก่อน) หมายถึง รายการในวาระการประชุมครั้งที่ผ่านมาว่ามีข้อสรุปอย่างไรบ้าง

minutes แปลว่า รายงานการประชุม

proxy vote แปลว่า การออกคะแนนเสียงระบบตัวแทน โดยสมาชิกมอบอำนาจให้ตัวแทนไปลงคะแนน

show of hands แปลว่า ยกมือเพื่อแสดงความเห็นในการลงคะแนน

unanimous เป็นเอกฉันท์ คือ ทุกคนมีข้อสรุปแบบเดียวกัน

video conference คือ การประชุมต่างสถานที่ แต่สามารถมองเห็นภาพและได้ยินเสียงด้วยระบบดาวเทียม , อินเตอร์เน็ต

vote คือ การออกเสียง ลงคะแนน เพื่อหาข้อสรุป

เราใช้ since ทั้งในฐานะคำ บุพบท (preposition) , คำสันธาน (conjunction – เชื่อมประโยค) และ คำวิเศษณ์ ที่กล่าวถึงเวลา

ใช้ Since กับ เวลา

เราใช้ since ในการกล่าวย้อนกลับไปถึงจุดหนึ่งของเวลาที่ผ่านมาแล้ว เป็นการใช้ since ในฐานะ บุพบท (preposition) รวมกับวันที่ ,เวลา หรือ ประโยคคำนาม

since ในกรณีนี้ แปลว่า ตั้งแต่

โดยทั่วไปประโยคจะอยู่ในรูปของ  present perfect และ  past perfect tenses เช่น

I have known her since last year.
ฉันรู้จักเธอตั้งแต่ปีที่แล้ว

It has been raining since yesterday.
ฝนตกตั้งแต่เมื่อวาน

We have lived in this city since 1995.
พวกเราอาศัยในเมืองนี้ตั้งแต่ปี 1995

You are looking much better since your operation.
คุณดูดีขึ้นมากตั้งแต่ศัลยกรรม

 

Since ทำหน้าที่เป็น conjunction – เชื่อมประโยค

since ยังสามารถทำหน้าที่เชื่อมประโยคเข้าด้วยกัน ดังนี้

I have known her since we were kids.
ฉันรู้จักเธอตั้งแต่พวกเรายังเป็นเด็ก

I’ve been lonely since he left
ฉันเหงาตั้งแต่เขาจากไป

 

ใช้ Since บอกเหตุผล

since นอกจากจะแปลว่า ตั้งแต่ ยังใช้ในความหมายเดียวกับ because (เพราะว่า ) ได้อีกด้วย

Jame had no reason to take a taxi since his flat was near enough to walk to.
เจม ไม่มีเหตุผลที่จะขึ้นรถแท็กซี่เพราะว่าแฟลตของเขาอยู่ใกล้พอที่จะเดินไปได้

Since you didn’t call, we left without you.
เพราะว่าคุณไม่โทรมา พวกเราจึงไปโดยไม่มีคุณ

 

since และ for ต่างกันอย่างไร

since จะใช้กับจุดหนึ่งของระยะเวลา เช่น
– 10 โมง
– วันจันทร์
– เดือนมกราคม
– ปี 2015

for จะใช้กับช่วงเวลา เช่น
– 20 นาที
– 3 วัน
– 5 เดือน
– เป็นเวลานาน (a long time)

คำว่าสงบสติอารมณ์ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ใจเย็น ๆ ในภาษาอังกฤษ ที่เรารู้จักกันดี คือ calm down แต่ก็ยังมีอีกหลายคำซึ่งมีความหมายเช่นเดียวกัน หรือคล้ายกัน เราลองมาดูรายละเอียดพร้อมกัน

สงบสติอารมณ์ภาษาอังกฤษ

ความจริงแล้วคำว่า calm down หรือ สงบสติอารมณ์ มักจะใช้สำหรับบอกคนที่ขาดสติ ให้กลับมาควบคุมอารมณ์ให้ใจเย็น (ยากเหลือเกินที่คนซึ่งโกรธจะทำได้)

Calm down and tell us what’s going on.
สงบสติอารมณ์ และบอกพวกเราว่าเกิดอะไรขึ้น

Cool off หรือ Cool down แปลว่า สงบสติอารมณ์ เช่นกัน หรือ หายโกรธ เช่น
Leave her to cool off and then talk to her.
ปล่อยให้เธอสงบอารมณ์ก่อน (หายโกรธ) จากนั้นค่อยคุยกับเธอ

Don’t worry แปลว่าอย่ากังวล
หากเราพบว่าเพื่อนของเราไม่สบายใจ มีความกังวลใจอยู่ ก็อาจจะปลอบให้เขาสบายใจขึ้นได้ด้วย การบอกว่า อย่ากังวล พร้อมทั้งบอกเหตุผลในการปลอบใจ

Keep cool แปลว่า ใจเย็น ซึ่งก็คือการ สงบใจ ควบคุมอารมณ์นั่นเอง
If Jenny could just keep cool before a race, she could probably win.
ถ้าเจนนี่สามารถควบคุมอารมณ์ก่อนการแข่งขัน บางทีเธออาจชนะได้

การ์ดวันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day Cards) ไม่ว่าจะภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาไทยก็ตาม โดยมากแล้วจะเต็มไปด้วยความหวาน เป็นสีแดงแห่งความรัก หรือไม่ก็สีชมพูสุดน่ารัก ซึ่งคู่รักบางคนอาจจะไม่ชอบความหวานเลี่ยนเช่นนี้ เห็นทีคงต้องเปลี่ยนมาดูตัวอย่างการ์ดวาเลนไทน์ตลก ๆ กันบ้าง

การ์ดวันวาเลนไทน์ภาษาอังกฤษสุดฮา

การ์ดวาเลนไทน์ 2015 ภาษาอังกฤษตลก

I knew i loved you when i farted and you didn’t run away.ฉันรู้ว่ารักคุณ เมื่อฉันตดแล้วคุณไม่หนีไป

การ์ดวาเลนไทน์ภาษาอังกฤษฮามาก

ด้านหน้าของการ์ดเขียนว่า

You are hotter than BRAD PITT , GEORGE CLOONEY และ JOHNY DEPP put togetter
คุณร้อนแรงกว่า แบรด พิตต์ , จอร์จ คลูนีย์ และ จอหน์นี่ เดปป์ รวมกัน

ด้านในการ์ดเขียนว่า
By the way , Have you seen my glasses.
อีกอย่างนึงนะ , คุณเห็นแว่นตาของฉันไหม

มุกนี้ประมาณว่า เริ่มชมอีกฝ่ายว่าหล่อดาราดัง แต่ตบท้ายว่าตัวเองไม่ได้ใส่แว่น จึงทำให้มองอะไรเบลอไปหมด

การ์ดอวยพรวาเลนไทน์ขำขำ

You suck less than most people
คุณห่วยน้อยกว่าคนส่วนใหญ่

แทนที่จะชมแฟนตัวเองว่าดี แต่บอกไปว่า แฟนตัวเองก็แย่ ไม่ได้ดี เพียงแต่คนอื่น ๆ แย่กว่า (ก็แปลว่า ดีกว่าคนอื่นนั่นแหละ )

การ์ดวาเลนไทน์อังกฤษ 2015

You treat me like a unicorn even when i’m an ass.
คุณเลี้ยงดูฉันราวกับยูนิคอร์น (ม้าบิน สัตว์ในเทพนิยาย) แม้ว่า ฉันเป็นแค่ลา

การ์ด happy valentine ตลก

Happy valentine’s day to person I’ve slept with most recently.
สุขสันต์วันวาเลนไทน์ ถึงคนที่ฉันนอนด้วยบ่อยที่สุด

การ์ดอวยพรวาเลนไทน์ขำขำภาษาอังกฤษ2015

I love you more than iPhone .
ฉันรักคุณมากกว่ามือถือไอโฟน

สำหรับคนที่เอาแต่เล่นโทรศัพท์ ไม่ค่อยสนใจแฟน จนแฟนเริ่มจะน้อยใจว่ารักแฟนมากกว่า หรือรักไอโฟนมากกว่า คงต้องส่งการ์ดที่มีข้อความแบบนี้ให้

ทั้งหมดนี้เป็นไอเดียขำ ๆ สำหรับการ์วาเลนไทน์ ที่ฉีกรูปแบบจากหวาน ๆ มาเป็นแบบตลก สนุกสนาน สำหรับผู้หญิงบางคน การ์ดขำ ๆ เช่นนี้ อาจจะเป็นที่ถูกใจมากกว่าก็เป็นได้ ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันวาเลนไทน์นะ

Had better เป็นกริยาช่วย แปลว่า “ควร” เราใช้คำนี้ในการกล่าวถึงปัจจุบันหรืออนาคต เพื่อบอกว่าการกระทำใดที่เราคิดว่าควรต้องทำ คำกริยานี้จะอยู่ในรูปของ had เสมอ ไม่ใช่ have

Had better จะตามหลังด้วย infinitive without to (กริยาช่อง 1 ที่ไม่มี to นำหน้า)

ตัวอย่างประโยค เช่น

I had better get back to work. ฉันควรกลับไปทำงาน

 

Had better เขียนอยู่ในรูปย่อได้ คือ ‘d better เช่น

You’d better tell her everything. คุณควรบอกเธอทุกอย่าง

 

หากต้องการเปลี่ยนประโยคที่ใช้ Had better ให้อยู่ในรูป negative  สามารถทำได้โดยเติม not ข้างหลัง เช่น

I’d better not leave my bag there. Someone might steal it.
ฉันไม่ควรวางกระเป๋าไว้ที่นี่ อาจมีใครขโมยมันไป

 

กรณีประโยคคำถาม ซึ่งเปลี่ยนจากประโยคบอกเล่านั้น ให้ย้าย Had มาไว้ที่ข้างหน้าประโยค

Had i better eat so much.?
ฉันควรกินให้มากใช่ไหม ?

ในการพูดที่ไม่เป็นทางการเราอาจจะพบว่ามีการใช้ had bestแทน had better

คำว่า Had better และ Should มีความหมายเดียวกัน แต่ที่แตกต่าง คือ เราจะใช้ had better สำหรับคำแนะนำที่เร่งด่วน และมีผลร้ายหากไม่ปฏิบัติตาม

Must ในภาษาอังกฤษ มีความหมายแปลว่า “ต้อง” ซึ่งใช้บ่อยในการพูดเพื่อบ่งบอกถึงความจำเป็น หรือแสดงความหนักแน่นในการบอก เช่น You must stop smoking. แปลว่า คุณต้องหยุดสูบบุหรี่

You must take some medicine for that cough.
คุณต้องกินยาแก้ไอ (คำว่า ต้อง ช่วยให้คำแนะนำหนักแน่นขึ้น)

รูปแบบโครงสร้างของ must โดยพื้นฐาน คือ
subject + must (auxiliary verb) + main verb base

ลองดูตัวอย่าง
I  must  go  home.
We must stop now.

กรณีประโยคห้ามให้วาง not ไว้ข้างหลัง must
you must not play in the street! คุณห้ามเล่นบนถนน

** เช่นเดียวกับกริยาช่วยอื่น ๆ  must จะไม่มี to ต่อท้ายคำ **
I must go now.  ไม่ใช่  I must to go now.

** เราสามารถใช้ must ได้ทั้งกับเหตุการณ์ปัจจุบัน และ อนาคต ** เช่น
I must go now. ฉันต้องไปตอนนี้ (ปัจจุบัน)
I must call my mother tomorrow. ฉันต้องโทรหาแม่ของฉันพรุ่งนี้ (อนาคต)

must ไม่สามารถใช้กล่าวถึงอดีต เราจะใช้ have to แทน :

We had to have a permit to enter the park.  พวกเราต้องมีใบอนุญาติเพื่อเข้าสู่สวนสาธารณะ

must เป็นอีกหนึ่งกริยาช่วยที่มีการใช้บ่อย ซึ่งรูปแบบการใช้งานก็ไม่ยาก